คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
...เรื่องนี้ พูดกันมาเรื่อยๆๆ หลายๆ ครั้ง หลายๆปีที่ผ่านมานี้ แต่ยังมีคนเก่าๆหลายๆคน งี่เง่าซะจริงๆ ไม่ยอมเข้าใจซะที เรื่องง่ายๆแค่นี้ ปัญญาอ่อนจริงๆเล๊ย เฮ้อๆๆ
...ทั้งในพระสูตร ( มัคควิภังคสูตร ) และในพระอภิธรรม ระบุไว้ชัดเจนว่า สมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) ที่ประกอบกับมรรคจิต ต้องเป็นสมาธิที่มีพลังในระดับฌาน เท่านั้น ถ้าพลังยังไม่ถึงฌาน ก็เป็นอัปปนาวิถีไม่ได้ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เพราะวิถีจิตที่บรรลุมรรคผล หรือ โลกุตตรอริยมรรควิถี ต้องเป็น อัปปนาวิถี เท่านั้น ซึ่งในอัปปนาวิถี พละทั้ง ๕ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ต้องยกระดับพลังกลายเป็น อินทรีย์ ๕ ทำนองเดียวกับ ฌานวิถี หรือ อภิญญาวิถี หรือ สมาบัติวิถี ..
...และ อีกอย่าง ต้องอย่าลืมว่า อารมณ์ของจิตใน โลกุตตรอริยมรรควิถี ต้องมีรูปนามเป็นอารมณ์ ไม่ใช่มีบัญญัติเป็นอารมณ์แบบของพวกฌานฤาษีทั้งหลาย
...ตรูละปวดกะบาล อธิบาย วนๆเวียนๆ ซ้ำๆซากๆ เรื่องเดิมๆ วนไปวนมา ..จะบ้าตาย
...ทั้งในพระสูตร ( มัคควิภังคสูตร ) และในพระอภิธรรม ระบุไว้ชัดเจนว่า สมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) ที่ประกอบกับมรรคจิต ต้องเป็นสมาธิที่มีพลังในระดับฌาน เท่านั้น ถ้าพลังยังไม่ถึงฌาน ก็เป็นอัปปนาวิถีไม่ได้ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เพราะวิถีจิตที่บรรลุมรรคผล หรือ โลกุตตรอริยมรรควิถี ต้องเป็น อัปปนาวิถี เท่านั้น ซึ่งในอัปปนาวิถี พละทั้ง ๕ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ต้องยกระดับพลังกลายเป็น อินทรีย์ ๕ ทำนองเดียวกับ ฌานวิถี หรือ อภิญญาวิถี หรือ สมาบัติวิถี ..
...และ อีกอย่าง ต้องอย่าลืมว่า อารมณ์ของจิตใน โลกุตตรอริยมรรควิถี ต้องมีรูปนามเป็นอารมณ์ ไม่ใช่มีบัญญัติเป็นอารมณ์แบบของพวกฌานฤาษีทั้งหลาย
...ตรูละปวดกะบาล อธิบาย วนๆเวียนๆ ซ้ำๆซากๆ เรื่องเดิมๆ วนไปวนมา ..จะบ้าตาย
แสดงความคิดเห็น
ทำไมต้องได้ฌาน๔แล้ววิปัสสนา ทำไมวิปัสสนาดูร่างกายเราเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อสุภะ เลยไม่ได้ครับ?